วิธีการวิเคราะห์จุดคุ้มทุน

3. วิธีการวิเคราะห์จุดคุ้มทุน
การวิเคราะห์จุดคุ้มทุนคือการนำแนวคิดจุดคุ้มทุนมาวิเคราะห์เพื่อตัดสินใจกำหนดราคาขายนั้น ช่วยให้ผู้บริหารสามารถคำนวณรายรับจากการขายต้นทุนรวมของกิจการและกำไรที่จะได้รับจากการตั้งราคารวมทั้งทำให้ทราบได้ว่ากิจการมีความเสี่ยงมากน้อยเพียงใดโดยดูตัวเลขของจุดคุ้มทุนกิจการต้องทำยอดขายขั้นต่ำเท่าไหร่จึงจะได้เงินทุนคืนมาทั้งหมด จุดคุ้มทุนจึงช่วยให้ผู้บริหารตัดสินใจเกี่ยวกับการกำหนดราคาขายกำหนดปริมาณขายและกำหนดผลกำไร
จุดคุ้มทุน คือระดับกิจกรรมการขายสินค้าที่ทำให้ได้กำไรเป็นศูนย์ จุดคุ้มทุนคือปริมาณขายสินค้าหรือบริการที่ทำให้ธุรกิจได้รับเงินลงทุนทั้งหมดกลับคืนมาและจุดคุ้มทุนกิจการจึงไม่มีกำไรไม่ขาดทุนคือกิจการได้ รายรับรวมเท่ากับต้นทุนรวมพอดี เกินจากจุดคุ้มทุนแล้วกิจการเริ่มมีกำไรก่อนถึงจุดคุ้มทุนกิจการยังคงขาดทุน

ประโยชน์ของการวิเคราะห์จุดคุ้มทุน
1. ช่วยในการวางแผนการตั้งราคาของธุรกิจช่วยให้ธุรกิจตัดสินใจได้ว่าควรตั้งราคาสินค้าอย่างไร ระดับราคาที่ตั้งไว้ธุรกิจจะถึงจุดคุ้มทุน เร็วหรือช้าหากปรับเปลี่ยนราคาขึ้นลงปริมาณขายที่ทำให้ถึงจุดคุ้มทุนเปลี่ยนแปลงมากน้อยเพียงใด
2. ช่วยในการวางแผนการผลิตเพราะธุรกิจทราบความสัมพันธ์ระหว่างต้นทุนคงที่ต้นทุนผันแปรราคาขายและปริมาณขายที่จะมีผลต่อกำไรหรือขาดทุนจากการดำเนินงานทำให้ธุรกิจวางแผนได้ว่าควรเพิ่มหรือลดการผลิตหรือไม่หากเปลี่ยนแปลงปริมาณผลิตต้นทุนสินค้าเป็นแปลงอย่างไรจุดคุ้มทุนเปลี่ยนแปลงอย่างไร
3. ช่วยในการวางแผนกำไร จุดคุ้มทุนทำให้ธุรกิจทราบว่า หากปริมาณขายสินค้ามากกว่าจุดคุ้มทุนธุรกิจจะได้กำไรธุรกิจจึงสามารถนำการวิเคราะห์จุดคุ้มทุนมาช่วยในการวางแผนหากธุรกิจต้องการกำไรระดับที่กำหนดต้องมีปริมาณขายเท่าใดต้องตั้งราคาเท่าใด

ข้อกำหนดของการวิเคราะห์จุดคุ้มทุน
หลักการวิเคราะห์จุดคุ้มทุนประกอบการตัดสินใจนั้นต้องกำหนดข้อสมมติฐานในการคำนวณดังนี้

1. การวิเคราะห์จุดคุ้มทุนนิยมใช้วิเคราะห์สินค้าชนิดเดียวหากวิเคราะห์สินค้าหลายชนิดใช้การแบ่งต้นทุนคงที่เฉลี่ยให้สินค้าแต่ละชนิดเท่ากันจึงไม่สะท้อนภาพของต้นทุนและกำไรของสินค้าแต่ละชนิดตามความเป็นจริง ซึ่งในความเป็นจริงของธุรกิจมีธุรกิจน้อยมากที่ผลิตและขายสินค้าเป็นชนิดเดียวจึงไม่นิยมนำการวิเคราะห์จุดคุ้มทุนไปวิเคราะห์ สินค้าหลายชนิดแต่ใช้การบริหารต้นทุนกิจกรรมมาคำนวณซึ่งทำให้เกิดความแม่นยำในการคำนวณต้นทุนกำไรตัดสินใจตั้งราคาให้ถูกต้องมากกว่า
2. ต้องแยกให้ได้ว่าต้นทุนใดเป็นต้นทุนคงที่หรือต้นทุนผันแปรอย่างชัดเจนหากแบ่งแยกผิดพลาดการคำนวณจุดคุ้มทุนผิดพลาด เช่นเงินเดือนผู้บริหารหากจ่ายเป็นอัตราแน่นอนเท่ากันทุกเดือนถือเป็นต้นทุนคงที่ แต่ค่าตอบแทนอื่นที่ให้ผู้บริหารเช่นค่าล่วงเวลาถือเป็นต้นทุนผันแปร
3. ตั้งสมมุติให้ต้นทุนคงที่ไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งในความเป็นจริงต้นทุนคงที่จะเท่ากันไม่เปลี่ยนแปลง ณ ระดับการผลิตหนึ่งเท่านั้นเช่นหากระดับการผลิตเกินจากกำลังผลิตของเครื่องจักรต้องซื้อเครื่องจักรใหม่ทำให้ต้นทุนคงที่เปลี่ยนแปลงจึงต้องคำนวณจุดคุ้มทุนใหม่
4. ต้องสมมุติให้ต้นทุนผันแปรต่อหน่วยคงที่ราคาขายต่อหน่วยคงที่ซึ่งในความเป็นจริงหากธุรกิจซื้อวัตถุดิบมากๆจะได้รับส่วนลดทำให้ต้นทุนค่าวัตถุดิบต่อหน่วยลดลงหรือราคาวัตถุดิบในบางฤดูกาลเปลี่ยนแปลงตามอุปสงค์และอุปทานนอกจากนั้นภาวะผันผวนทางเศรษฐกิจและสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน เกิดขึ้นเร็วมากทำให้ต้นทุนผันแปร เปลี่ยนแปลงขึ้น ลงเร็ว เช่นการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศหรือราคาน้ำมันปรับราคาสูงขึ้น ราคาวัตถุดิบปรับราคาตามราคาน้ำมัน
5. ปริมาณผลิตต้องขายได้ทั้งหมดจึงจะได้กำไรตามที่คำนวณไว้หากปริมาณขายได้ไม่หมดทำให้กำไรลดลงด้วยแต่ปริมาณขายยังขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปด้วยตามที่กล่าว ในข้อ 3.4
ดังนั้น ถ้ากำหนดให้
P          เป็น      ราคาขายต่อหน่วย (Selling Price per Unit)
Q          เป็น      ปริมาณขาย (Sales Quantity)
TFC      เป็น      ต้นทุนคงที่รวม (Total Fixed Cost)
TVC     เป็น      ต้นทุนผันแปรรวม (Total Variable Cost)
AVC     เป็น      ต้นทุนผันแปรเฉลี่ยต่อหน่วย (Average Variable Cost)
              TR        เป็น      รายได้รวม (Total Revenues
TC        เป็น      ต้นทุนรวม (Total Cost)









               
                                                               
จุดคุ้มทุน (หน่วยขายที่คุ้มทุน)       =         ต้นทุนคงที่ /   ( ราคาขายต่อหน่วย – ต้นทุนผันแปรต่อหน่วย )

และปริมาณการขาย ณ ระดับกำไรจากการดำเนินงาน (EBIT) ที่ต้องการ คำนวณได้ดังนี้

ปริมาณขาย ณ ระดับ EBIT ที่ต้องการ   =     ต้นทุนคงที่รวม+BEIT ที่ต้องการ / ราคาขายต่อปริมาณ-ต้นทุนผัน 

ตัวอย่างที่ 3
บริษัทรอบคอบจำกัดตั้งราคาขายสินค้าชนิดหนึ่งไว้ในราคาหน่วยละ 80 บาทโดยต้องเสียค่าเช่าร้านและค่าใช้จ่ายคงที่อื่น อื่นๆรวม 100,000 บาทค่าใช้จ่ายผันแปรหน่วยละ 30 บาทจงหา
1. ปริมาณขาย ณ จุดคุ้มทุน
2. ยอดขาย ณ จุดคุ้มทุน
3. ถ้าบริษัทต้องการกำไรจากการดำเนินงาน 3,000 บาทจะต้อง ขายสินค้าให้ได้ในจำนวนเท่าใด


1. จุดคุ้มทุน (หน่วยขายที่คุ้มทุน)        =         ต้นทุนคงที่ /   ( ราคาขายต่อหน่วย – ต้นทุนผันแปรต่อหน่วย )

                          =   150000
                                80-30
                           = 3000 หน่วย
2. ยอดขาย ณ จุดคุ้มทุน = ราคาขายต่อหน่วย x ปริมาณขาย ณ จุดคุ้มทุน
                          = 80 x 3,000
                          = 240,000 บาท 
3.ปริมาณขาย ณ ระดับ EBIT ที่ต้องการ  =  ( ต้นทุนคงที่รวม+BEIT ที่ต้องการ) / (ราคาขายต่อปริมาณ-ต้นทุนผัน  )
 =  (15000+30000 ) / (80-50)
 = 3,600 หน่วย

ดังนั้นถ้าบริษัทต้องการกำไรจากการดำเนินงาน 30,000 บาทต้องขายสินค้าให้ได้ 3600 หน่วยจากความหมายของจุดคุ้มทุนจะเห็นว่าจุดคุ้มทุนจะเปลี่ยนแปลงได้ 3 กรณี
1 ราคาขายต่อหน่วยเปลี่ยนแปลง
2 ต้นทุนคงที่เปลี่ยนแปลง
3 ต้นทุนผันแปรเฉลี่ยต่อหน่วยเปลี่ยนแปลง
ดังนั้นถ้ากิจการต้องการกำไรเพิ่มขึ้นก็ต้องเปลี่ยนแปรหลักการดำเนินงานปัจจุบันซึ่งสามารถทำได้โดยเพิ่มราคาขายต่อหน่วยหรือลดต้นทุนคงที่รวมหรือลดต้นทุนผันแปรเฉลี่ยต่อหน่วย

ที่มา:  http://oservice.skru.ac.th/ebookft/355/chapter11.pdf





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น